เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒๙ พ.ค. ๒๕๖๑

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

 

ตั้งใจฟังธรรมะ อันนั้นอารมณ์ อันนี้เป็นธรรมะ

 

ธรรมะ วันนี้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนานะ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน เป็นวันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

 

ถ้าชาวพุทธทั่วโลก วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก ชาวพุทธทั่วโลกเขาระลึกถึง เวลาเขาระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ระลึกถึงเจ้าของศาสนา ระลึกถึงศาสดาของเรา นั่นน่ะ พอเราระลึกถึงอันนั้น มันสำนึกถึงบุคคลคนนั้น บุคคลคนนั้นมีวัฒนธรรม มีศาสนาประจำหัวใจของตน ถ้ามีศาสนาประจำหัวใจของตน คนคนนั้นเป็นคน

 

ถ้าคนนั้นไม่มีศาสนาประจำหัวใจของตน บางคนที่ไม่มีศาสนาประจำหัวใจของตนก็ว่าเป็นคนดี คนดีก็ดีในโลกๆ ไง แต่ถ้ามีธรรมะในหัวใจนะ มีศาสนาในหัวใจ เขามีระลึกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

เวลาระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เวลาทำบุญกุศลของเราระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไปทำบุญกุศลแล้วไปเกิดเป็นเทวดา ถ้าเทวดาในพระพุทธศาสนาเลื่อนชั้นขึ้นมาต่างๆ ก็ได้

 

แต่ถ้าเป็นเทวดา คนทำดีต้องได้ดีทั้งนั้น จะลัทธิศาสนาใดทำดีก็คือได้ดี แต่ดีแล้วเขาทำความดี ความดีก็ตอบสนองทางวิทยาศาสตร์ไง แต่ถ้าพระพุทธศาสนามันแบบว่านุ่มนวลกว่า นุ่มนวลกว่า มันพัฒนาของมันได้ ถ้าพัฒนาของมันได้ พระพุทธศาสนา ถ้าใครระลึกถึงพระพุทธศาสนา คนคนนั้นมีศาสนาในหัวใจ ถ้าคนนั้นมีศาสนาในหัวใจ ดูความเมตตาของเราสิ ถ้าความเมตตาของเรา ลัทธิศาสนาใดเขาก็มีเมตตาเหมือนกัน แต่เมตตา เมตตาของเขา เมตตาในตัวของเขา แต่ไม่เมตตาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คืออะไร พระสงฆ์ ก็องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ เวลาบุพเพนิวาสานุสติญาณ จิตดวงหนึ่งเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะๆ สิ่งที่พัฒนามาๆ เวลาพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย ทำคุณงามความดี ทำคุณงามความดีจนอำนาจวาสนาบารมีเต็ม ถ้าอำนาจวาสนาบารมีเต็มขึ้นมา เวลาจะมารื้อค้น รื้อค้นสัจธรรมๆ

 

สัจธรรม ไม่ใช่วาสนาเป็นวาสนา เวลาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ บุญกุศลมันขับเคลื่อนไป แต่เวลามารื้อค้น รื้อค้นในสัจจะความจริงในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้ารื้อค้นในสัจจะความจริงในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

หลวงตาท่านพูดประจำ มีศาสนาเดียวที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิญาณตนว่าเป็นพระอรหันต์ มีศาสนาเดียว ศาสนาอื่นยืนยันว่าเป็นศาสดาศาสดาๆ เขาได้แก้ไขอะไรบ้าง เขาได้แทงทะลุในใจของเขาหรือไม่ เขาเป็นความจริงหรือไม่ นี่ถ้ามีศาสนาเดียว ถ้าศาสนาเดียว

 

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เรามาทำบุญกุศลมันเป็นการยืนยันว่าเราเป็นชาวพุทธ เราเป็นคนที่มีวัฒนธรรม เราภูมิใจมาก ภูมิใจว่าทั่วประเทศไทยเขาจัดประเพณีวัฒนธรรม ชาติเรามีวัฒนธรรมนะ ชาติเราเป็นชาติที่เจริญนะ เจริญที่ไหนล่ะ เจริญในหัวใจไง

 

เวลาเจริญมันก็เป็นธุรกิจไปใช่ไหม เวลาทำสิ่งใดแล้วมันก็เป็นการธุรกิจทั้งนั้นน่ะ มันมีผลประโยชน์ทั้งนั้นน่ะ เวลาผลประโยชน์เป็นเรื่องโลกๆ ไง ถ้าเป็นเรื่องโลก ในสมัยพุทธกาลเวลาธรรมกถึกกับวินัยธร

 

ธรรมกถึกคือผู้ที่ประพฤติปฏิบัติมีดวงตาเห็นธรรมในใจของตน ธรรมกถึก ธรรมกถึกเอาสัจจะความจริงอันนั้นมาเป็นการแสดงธรรม เวลาวินัยธร วินัยธรก็ศึกษาเล่าเรียนมา ศึกษาเล่าเรียนมาเป็นวินัยธร มีปัญหา มีการขัดแย้งกัน

 

นี่ก็เหมือนกัน เวลาเรานับถือพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาเราต้องการบุญกุศลของเราใช่ไหม ถ้าบุญกุศลของเรา การเสียสละของเรา คนที่ไม่มีศาสนาประจำหัวใจนะ เขาไม่ทำๆ เขาไม่ได้สิ่งใดเลย แต่เราทำบุญกุศลของเราๆ ทำเพื่อเรา แล้วทำแล้วจิตใจมันพัฒนาขึ้นมา พัฒนาขึ้นนี่บุญกุศล

 

บุญกุศลเวลาทำขึ้นมามันเป็นอามิสๆ พอมันเป็นอามิสขึ้นมา เวลาทางโลกเขาดูถูกเหยียดหยามกันนะ ไอ้พวกนี้พวกไม่มีน้ำยา ไม่มีน้ำยาคือว่ามันไม่มีรสไม่มีชาติไง นี่มันไม่เป็นความจริงในหัวใจ

 

ถ้าไม่มีน้ำยา เราทำบุญกุศลของเรามันก็มีขนมจีน เรามีขนมจีน เรามีข้าวปุ้น ขนมจีนข้าวปุ้นมันมาจากไหน มันก็มาจากแป้ง มาจากแป้ง เขาทำเป็นเส้นขึ้นมา แต่ถ้ามันไม่มีน้ำยาๆ นี่ก็เหมือนกัน เราทำบุญกุศลของเราเป็นบุญกุศลของเรา แล้วถ้าจะมีน้ำยาล่ะ น้ำยาของเขา เขาก็ต้องหาปลาช่อน หาปลาที่เขาใช้ทำน้ำยา เขาต้องมีเครื่องเทศ เขาต้องมีขิงข่าตะไคร้ แล้วเขาต้องทำของเขาขึ้นมา

 

นี่ก็เหมือนกัน ขนมจีนก็ไม่มี น้ำยาก็ไม่มี เพราะมันไม่เชื่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดเป็นประโยชน์กับเราทั้งสิ้น ถ้าผลประโยชน์ของเรามันเป็นของเราทั้งนั้น นี่เป็นเรื่องโลกๆ ทั้งนั้น สิ่งที่ได้มาด้วยความเป็นธรรมๆ สิ่งที่เป็นธรรมขึ้นมามันก็เป็นคุณธรรมใช่ไหม สิ่งที่เราได้มาด้วยความไม่เป็นธรรม สิ่งที่เราได้มาด้วยการฉ้อฉล นั่นมันก็เป็นบาปเป็นกรรมทั้งนั้นน่ะ นี่สิ่งที่ได้มาๆ

 

สิ่งที่ได้มาแล้วมันก็ยังแบ่งออกไปเป็นสัมมาทิฏฐิความเห็นถูกต้องดีงาม เป็นมิจฉาทิฏฐิขึ้นมา ทำมาด้วยความผิดพลาด ทำมาด้วยการคดโกงมา นี่ไง สิ่งที่ได้มาไม่เป็นความจริงใช่ไหม ถ้ามันได้ความเป็นจริงขึ้นมา สิ่งที่เป็นจริง เป็นจริงก็เป็นจริงแบบโลกๆ ไง เวลาเราจะได้ขึ้นมาเราก็ได้ขนมจีนๆ ไง ถ้าขนมจีนไม่มีน้ำยา พอไม่มีน้ำยาขึ้นมา มันไม่มีรสไม่มีชาติ ถ้าไม่มีรสไม่มีชาติขึ้นมา แล้วถ้าเราจะเอาน้ำยาล่ะ น้ำยาขึ้นมามันก็มีความเป็นจริงนะ เราจะมีขนมจีนด้วย มีน้ำยาด้วย ถ้ามีขนมจีนด้วย มีน้ำยาด้วย เรามาวัดมาวาของเรา เรามาแสวงหาของเรา

 

โดยธรรมชาติ เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนานะ เราเกิดมาจากพ่อจากแม่ พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเราก็นับถือพระพุทธศาสนา โดยพื้นฐานของเรา เรามีขนมจีนของเราอยู่แล้วแหละ แล้วเราจะเอาน้ำยา ขนมจีนต้องมีน้ำยาด้วย ถ้ามีน้ำยาขึ้นมา มันจะมีรสมีชาติ มีความจริงขึ้นไป เราก็จะมาฝึกหัดประพฤติปฏิบัติ เวลาฝึกหัดประพฤติปฏิบัติ เวลาปฏิบัติขึ้นมามันต้องมีครูบาอาจารย์คอยแนะคอยนำ คอยสั่งคอยสอน เห็นไหม

 

หลวงปู่มั่นท่านทำอย่างไร หลวงปู่มั่นท่านไม่ให้คลุกคลี นี่มันเป็นจริงของมัน มันเป็นจริงของมัน ที่ไหนมีความศรัทธาความเชื่อ สังคมก็ต้องแสวงหาด้วยเจตนาของเขา ถ้าด้วยเจตนาของเขา เรารับรองเขา ทำศรัทธาไทยให้ตกล่วงเป็นอาบัติปาจิตตีย์ พระเรา เขามีศรัทธามีความเชื่อของเขา เขามาวัดมาวาของเขา เราไปทำของเขาให้มีความขัดแย้งขึ้นไป เห็นไหม เป็นอาบัติปาจิตตีย์ถ้าทำศรัทธาไทยให้ตกล่วง ศรัทธาไทยๆ ศรัทธาคือเขามีศรัทธาเต็มในใจของเขา แล้วเราไปทุบทำลายศรัทธาของเขา นี่เป็นอาบัตินะ

 

พระพุทธศาสนา ศรัทธาความเชื่อมันชักนำให้สังคมเข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนา ถ้าเขาไม่มีศรัทธาความเชื่อ เขาเข้ามาได้อย่างไร แต่เวลาเข้ามาแล้วเขามีศรัทธาของเขา เขาเกิดทิฏฐิมานะของเขา เขาเกิดความโต้แย้งของเขา นี่คือการแก้จิตๆ แก้จิตมันต้องหัก หักนี่แก้ไข การแก้ไข

 

แต่ในทางโลกๆ เราไม่สามารถแก้ไขกันได้ เราโอ้โลมปฏิโลมอย่างนั้นน่ะ ความรุนแรงแก้กิเลสไม่ได้ ความรุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้

 

ความรุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้ แต่วิธีการ ทำเขา สั่งสอนเขา บอกเขาให้หูตาสว่าง การที่จะพลิกแพลงให้เขามีมุมมอง มีทัศนคติ มีความเห็นว่าสิ่งที่เราถือมา เราเอาของเรามามันมีคุณค่าไหม มีทั้งนั้นน่ะ น้ำพักน้ำแรงของเราทั้งนั้นนะ แต่มาแล้วมันกีดขวางบ้านเมือง มันกีดขวางเขาไปหมด มันแข็งทื่อไปหมดนะ

 

แต่ถ้าเราอ่อนน้อม เราได้มามันก็ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งนั้นแหละ แต่มันได้มาแล้ว นี่ไง ปฏิคาหก เราได้มาด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ของเรา เวลาบริจาคไปด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ของเรา บริจาคไปแล้วก็จบ ผู้รับรับด้วยเจตนาที่สะอาดบริสุทธิ์ ใช้สอยด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ สิ่งที่ใช้แล้วมันเป็นประโยชน์ มันไม่กีดขวางโลกไง มันทำอย่างไรก็ทำได้ถ้ามันมีทั้งขนมจีนมีทั้งน้ำยา

 

นี่มันไม่มีทั้งขนมจีน ไม่มีทั้งน้ำยาเลย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น แต่เวลาครูบาอาจย์ของเราท่านมีทั้งขนมจีน ท่านมีทั้งน้ำยา ท่านเห็นหมดน่ะ เวลาครูบาอาจารย์ของเรานะ เวลานักขัตฤกษ์เขาไปทำบุญ พระพาโยมไปทำบุญ อาจารย์ถามเลย เอาบุญแค่นี้หรือ ติดบุญแค่นี้ใช่ไหม เอาบุญแค่นี้ แค่นี้

 

คนที่ไม่ทำอะไรมันก็ไม่รู้เรื่องนะ คนที่ชักนำขึ้นมามันก็ปรารถนาของมันใช่ไหม แต่เอาบุญแค่นี้หรือ บุญที่มากกว่านี้ ความดีที่มากกว่านี้ยังมีอยู่ ความดีจริงๆ แล้วคือมารยาทนี่แหละ มารยาทของเรานุ่มนวล มารยาทของเรา เห็นไหม

 

หลวงตาเวลาท่านพูดนะ เวลาคนไข้ไปหาหมอ ยาขนานแรกเลยคือการต้อนรับ คือการพูดดีกับเขา การพูดให้เขามีน้ำใจของเขา นี่คือยาขนานแรกเลย ยังไม่ได้ฉีดยาเลยนะ ยาขนานแรกเลย

 

นี่ก็เหมือนกัน สิ่งใดที่นุ่มนวลอ่อนหวานๆ ไอ้นั่นมันเป็นมารยาทสังคมใช่ไหม นี่ไง ประเพณีวัฒนธรรมของเรา เราภูมิใจ เรามีวัฒนธรรมไง แต่วัฒนธรรมแล้ว ถ้ามันติดของมัน วัฒนธรรม ของกูๆ นะ คือความเห็นเถรตรง ต้องเป็นอย่างนี้ไง

 

แต่ความจริงไม่มีอะไรเลย สมมุติทั้งนั้น วางแล้วก็จบ วางแล้วก็จบ แต่เราวางเราไม่ได้ ขนมจีนก็ไม่มี น้ำยาก็ไม่มี มันกีดขวางเขาไปทั่ว แต่ถ้ามันเป็นจริงๆ นะ ที่ใดก็แล้วแต่เป็นที่น่าเชื่อถือน่าไว้วางใจ คนมันจะเยอะมาก แล้วเวลาคนเยอะมากแล้ว เราไปแล้ว ใครมีน้ำใจมากกว่ากัน นี่ เวลาทำบุญทิ้งเหวไง ถ้าทำบุญทิ้งเหวแล้วมันเป็นของเราเต็มๆ หัวใจไง

 

แต่นี่ทำบุญเสร็จแล้วนะ กลับไปบ้านทะเลาะกันนะ กลับไปบ้าน นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้

 

กลับไปบ้านแล้วนะ โอ๋ย! ชื่นใจ เราพอใจ เราทำแล้ว นี่ไง ถ้ามันไม่กีดขวางตัวเองมันไม่เกิดทิฏฐิมานะในใจ ถ้ามันเกิดทิฏฐิมานะในใจ

 

นี่ไง เวลาบอกทำศรัทธาไทยให้ตกล่วงเป็นปาจิตตีย์นะ คำว่า “เป็นปาจิตตีย์” คนเรากว่าจะเชื่อถือในพระพุทธศาสนาก็แสนยาก เชื่อถือแล้วจะทำอย่างไรให้มันถูกต้องยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ทำแล้วยิ่งจะได้ผล ยิ่งไม่รู้อยู่ที่ไหนเลย

 

แล้วเวลาครูบาอาจารย์ของเราต้องเข็น ต้องขึ้นไปแต่ละชั้นแต่ละตอนขึ้นไปนะ ไอ้เรื่องทิฏฐิมานะของคน ไม่รู้ก็ศึกษา ศึกษาพอเป็นความรู้ก็อวดรู้ อวดรู้ก็เลยไม่รู้ แต่ถ้ามันรู้จริงๆ ขึ้นมาแล้วนะ นี่สมมุติบัญญัติ มันจริงตามสมมุติ ถ้าจริงตามสมมุติ เราต้องทำตามจริงนั้น สมมุติที่นี่เขาสมมุติกันว่าอย่างนี้ เราต้องทำตามสมมุติอย่างนี้ เราจะไปกีดขวางสมมุติอย่างนี้ไม่ได้ ไม่ควร

 

จริงตามสมมุติ จริงตรงนั้นน่ะ จริงขณะที่ทำ สมมุติ บัญญัติ บัญญัติขึ้นมา พอบัญญัติขึ้นมา บัญญัติในธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่ขันธ์ ๕ อริยสัจ ๔ บัญญัติขึ้นมา เวลาสวดมนต์ถ้าเป็นเถรวาทด้วยกัน ในโลกนี้จะสวดมนต์ก็เป็นภาษาบาลีเหมือนกันหมด จะต่างกันด้วยสำเนียงบ้างเล็กน้อย นี่บัญญัติ บัญญัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติขึ้นมา สมมุติและบัญญัติ

 

วิมุตติ เวลาข้ามพ้นไป ผู้ที่ศึกษาทั้งสมมุติและบัญญัติแล้ว แล้วปล่อยวางทั้งหมด รู้ตามความเป็นจริง แล้ววางสิ่งนั้นไว้ตามความเป็นจริง เวลาธรรมแท้ๆ ธรรมเหนือโลกๆ เหนือโลก เหนือสมมุติบัญญัติทั้งหมด สมมุติบัญญัติทั้งหมดจะเข้าไปกระเทือนถึงธรรมอันนั้นไม่ได้ ธรรมอันนั้นมันเหนือสมมุติบัญญัตินะ

 

แต่ก่อนที่จะมาเหนือสมมุติบัญญัติขึ้นมามันก็ต้องผ่านจากสมมุติมาก่อน ถ้าไม่ผ่านสมมุติมาก่อน เราเกิดจากใคร พระเกิดจากพ่อจากแม่ ต้องมีพ่อมีแม่ถึงได้เกิดใช่ไหม พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก เสร็จแล้วก็มาศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ถ้าสมมุติอยู่กับพ่อแม่เป็นโลก เป็นสมมุติ มาเรียนศึกษาพระพุทธศาสนานี่เป็นบัญญัติ เวลาบัญญัติขึ้นมาแล้ว นี่ขนมจีนไม่มีน้ำยา พอขนมจีนไม่มีน้ำยาเป็นการบอกว่าคนคนนั้นครึ่งๆ กลางๆ แต่เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมามีทั้งขนมจีน มีทั้งน้ำยาด้วย

 

น้ำยาขึ้นมา กว่าจะเป็นน้ำยาขึ้นมามันขวนขวายแค่ไหน แล้วขวนขวายขึ้นมา ดูสิ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านมีสมบูรณ์ของท่าน เวลาท่านมีสมบูรณ์ของท่านนะ คนที่มีสมบูรณ์ของท่านคือคนที่ประสบความสำเร็จ ทำมาประสบความสำเร็จ เสร็จสิ้นการงานทั้งหมดแล้ว แล้วกว่าจะเดินมาได้ เดินมาได้อย่างไร ถ้าเดินมาได้อย่างไร วางข้อปฏิบัติไว้ เห็นไหม

 

ศึกษาสูงส่งขนาดไหน จบ ๙ ประโยค ๑๐ ประโยค เวลาเริ่มภาวนา กลับมาพุทโธทั้งนั้นน่ะ ถ้าไม่กลับมาหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ไม่เข้ามาหาจิตของตน คนนั้นไม่มีการเริ่มปฏิบัติ การเริ่มปฏิบัตินั้นมันต้องเริ่มปฏิบัติจากจิตดวงนั้น จิตดวงที่อยากจะประพฤติปฏิบัตินั้น มันต้องหาจิตดวงนั้นให้เจอ จิตดวงนั้นเป็นจิตที่เริ่มต้น นี่สมมุติ

 

ถ้าเราเกิดที่นี่ เราเกิดภพนี้ ชาตินี้ เราไม่เริ่มต้นจากชาตินี้จะไปเริ่มที่ไหน ถ้าเราไม่เข้าสู่จิตของตนมันจะไปเริ่มต้นที่ไหน ถ้าจิตของตน จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ถ้าเข้าไปหามัน นี่ไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาเกิด ตรัสรู้ ปรินิพพานก็ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น แต่กว่าจะเป็นในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระโพธิสัตว์มา ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขยนั่นน่ะ ท่านสร้างสมมามากน้อยแค่ไหน ท่านได้สะสมไปในหัวใจดวงนั้น ถ้าไม่ได้สะสมในใจดวงนั้น เวลาท่านระลึกอดีตชาตินะ บุพเพนิวาสานุสติญาณ ท่านจะย้อนจากพระเวสสันดรไปได้อย่างไร นี่ไง สิ่งที่ทำมาๆ ทำมาอย่างนั้น

 

ในปัจจุบันนี้เรากำลังทำกันอยู่ไง ถ้าเราจะมีขนมจีน ขนมจีนคือศรัทธาความเชื่อของเรา ถ้าเราจะมีน้ำยา เราต้องมีปัญญาเท่าทันกิเลสของตน กิเลสของตนที่มันข่มขี่มันบังคับหัวใจดวงนี้ ที่มันทุกข์มันยากอยู่นี่ก็ความคิดของเราทั้งนั้นน่ะ มันมีคนที่นั่งอยู่นี่มีใครทำลายใคร ใครทำให้คนอื่นทุกข์บ้าง ต่างคนต่างนั่งอยู่ไง แต่ในหัวใจของคนคนนั้นมีแต่ความทุกข์ มีแต่กิเลสเผาลนในใจดวงนั้น ใจของคนที่นั่งอยู่นั่นน่ะมีแต่กิเลสมันเผาลน ไม่มีใครเผาลน ตัวเองเผาลนตัวเองทั้งนั้นน่ะ ไม่มีน้ำยา ถ้ามีน้ำยาขึ้นมามันจะมีสติ มีสมาธิ มีปัญญาเข้ามาที่นี่

 

พระพุทธศาสนานี้มหัศจรรย์มากนะ หลวงตาท่านไปไหนท่านบอกไปเอาหัวใจคนๆ หัวใจคน พระพุทธศาสนาสอนชี้เข้าไปสู่ที่จิตใจของสัตว์โลก ชี้เข้าไปสู่จิตที่ความรู้สึกของเรา แล้วถ้าใครรู้จริงอันนั้น นี่ไง สิ่งที่เป็นอกุปปธรรมๆ อฐานะที่จะไม่เสื่อม จะไม่แปรสภาพ

 

แต่ความคิดอารมณ์ของเราแปรปรวนตลอด ทุกอย่างไม่มีอะไรคงที่เลย แต่เวลาเป็นอกุปปธรรม อะคืออฐานะ อะคือไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

วันนี้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ถ้าวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เราเป็นชาวพุทธไง เราเป็นชาวพุทธ เรามีวัฒนธรรม เรามีความเคารพบูชาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราระลึกถึง ทำบุญกุศลนี้ทำบุญกุศลเพื่อถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็ถวายพุทธะในใจของเรา เพราะมีพุทธะ มีชีวิต มีความรู้สึก ความรู้สึกมีเจตนา มีการขวนขวาย มีการกระทำ มันจะเข้าสู่จิตดวงนั้นไง ภวาสวะ ภพ นี่กำเนิดที่จุดกำเนิด ฐานที่ตั้ง สิ่งที่เป็นความจริง ความจริงที่นี่ ลงอยู่ที่นี่ทั้งนั้น ทำดีและทำชั่วลงสู่หัวใจทั้งหมด

 

หัวใจนี้เป็นจุดเริ่มต้น เป็นสิ่งที่การขับเคลื่อนออกไป ผลต้องกลับไปที่ใจดวงนั้น แล้วเวลาประพฤติปฏิบัติทวนกระแสกลับๆ ก็นี่ไง ทวนกระแสกลับก็ภาวนามยปัญญา ทวนกระแสกลับเข้าไปสู่ในหัวใจ นี่พระพุทธศาสนาไง พระพุทธศาสนาประเสริฐ ประเสริฐตรงนี้ไง พระพุทธศาสนา บริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาเป็นเจ้าของศาสนาไง ทุกๆ คนมีสิทธิเสรีภาพ ทุกๆ คนมีการกระทำ ทุกๆ คนเป็นเจ้าของศาสนา เอวัง